เห็นได้ชัดว่าจีนได้กลายเป็นผู้เล่นหลักในเศรษฐกิจโลก ที่จริงแล้ว คุณคงเคยได้ยินเกี่ยวกับ BRICS และการเก็งกำไรและการถกเถียงเมื่อเร็ว ๆ นี้เกี่ยวกับสกุลเงินจีน (หยวน) ที่มาแทนที่ดอลลาร์ มันจะเกิดขึ้นไหม? ไม่มีใครรู้ แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือความจริงที่ว่าจีนมีการเติบโตในอัตราทวีคูณ และการเพิ่มขึ้นนี้มาพร้อมกับความสนใจในสกุลเงินของตนที่เพิ่มขึ้น แล้วอะไรทำให้เงินหยวนจีนแตกต่างจากสกุลเงินอื่น?
อะไรคือความแตกต่างระหว่างหยวน, RMB, CNH หรือ CNY?
สิ่งสำคัญที่ควรทราบก็คือ หยวน, RMB, CNH และ CNY เป็นคำศัพท์ทั้งหมดที่ใช้เรียกสกุลเงินจีน โดยมีความหมายแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับบริบทที่ใช้
- หยวนเป็นหน่วยพื้นฐานของสกุลเงิน และมีสัญลักษณ์ ¥ แทน
- RMB ย่อมาจาก Renminbi เป็นชื่ออย่างเป็นทางการของสกุลเงินที่ใช้ในจีนแผ่นดินใหญ่ และยังแสดงด้วยสัญลักษณ์ ¥ อีกด้วย
- CNY คือรหัส ISO สำหรับเงินหยวนบนบกที่ซื้อขายภายในจีนแผ่นดินใหญ่ และมักเรียกกันว่า "หยวนบนบก" สัญลักษณ์ของมันคือ ¥ เช่นกัน
- ในทางกลับกัน CNH คือรหัส ISO สำหรับเงินหยวนนอกชายฝั่งที่ซื้อขายนอกจีนแผ่นดินใหญ่ และมักเรียกกันว่า "เงินหยวนนอกชายฝั่ง" สัญลักษณ์ของมันคือ CN¥ เพื่อแยกความแตกต่างจากเงินหยวนบนบก
เงินหยวนถูกควบคุมโดยธนาคารกลางจีน ซึ่งควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ผู้เข้าร่วมตลาดในสกุลเงินหยวนมักจะเป็นผู้ส่งออกบนบกที่ซื้อหยวนหยวนและขายดอลลาร์สหรัฐ ในทางตรงกันข้าม อัตราแลกเปลี่ยน CNH ถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทานภาคเอกชนสำหรับ CNH แม้ว่าจะอยู่ภายใต้กฎระเบียบของรัฐบาลก็ตาม ความต้องการ CNH มักจะสูงกว่าอุปทาน ส่งผลให้การซื้อขาย CNH มีมูลค่าสูงกว่า CNY ดังนั้น CNH มักจะดึงดูดนักเก็งกำไรที่คาดการณ์ว่าสกุลเงินจีนจะแข็งค่าขึ้น
อะไรส่งผลกระทบต่อสกุลเงินจีน?
สกุลเงินจีนก็เหมือนกับสกุลเงินอื่นๆ ที่อาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อมูลค่าในตลาดสกุลเงินโลก นี่คือตัวอย่างปัจจัยที่อาจส่งผลต่อสกุลเงินจีน:
- ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ: การเปลี่ยนแปลงตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ เช่น การเติบโต GDP อัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ย อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อมูลค่าของสกุลเงินจีน ตัวอย่างเช่น หากเศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว ความต้องการสกุลเงินจีนอาจเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าของสกุลเงินได้ ในทางกลับกัน หากอัตราเงินเฟ้อสูงหรืออัตราดอกเบี้ยต่ำ สิ่งนี้อาจทำให้มูลค่าของสกุลเงินลดลง
- นโยบายการค้า: การเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้า เช่น ภาษีหรือข้อจำกัดในการนำเข้าและส่งออก อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้สกุลเงินจีนด้วย ตัวอย่างเช่น หากรัฐบาลจีนเรียกเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ สิ่งนี้อาจลดความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่มความต้องการเงินหยวนจีน ซึ่งนำไปสู่การแข็งค่าของมูลค่า
- เหตุการณ์ทางการเมือง: เหตุการณ์ทางการเมือง เช่น การเลือกตั้งหรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาล อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อมูลค่าของสกุลเงินจีนด้วย ตัวอย่างเช่น หากมีความไม่มั่นคงทางการเมืองในประเทศจีน สิ่งนี้อาจส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้มูลค่าของสกุลเงินลดลง
- เหตุการณ์ระดับโลก: เหตุการณ์ระดับโลก เช่น การระบาดใหญ่ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมัน อาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าของสกุลเงินจีนด้วย ตัวอย่างเช่น หากราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้ค่าเงินหยวนเพิ่มขึ้น เนื่องจากจีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่
- นโยบายการเงิน: การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินโดยธนาคารกลางจีน เช่น การปรับอัตราดอกเบี้ยหรือทุนสำรองสกุลเงิน อาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าของสกุลเงินด้วย ตัวอย่างเช่น หากธนาคารกลางขึ้นอัตราดอกเบี้ย สิ่งนี้อาจเพิ่มความต้องการใช้สกุลเงิน ส่งผลให้มูลค่าของสกุลเงินแข็งค่าขึ้น
วิธีการค้าสกุลเงินจีน?
มีหลายวิธีในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินจีน ได้แก่:
- การแลกเปลี่ยนสกุลเงิน: หากคุณกำลังเดินทางไปประเทศจีนหรือทำธุรกิจกับบริษัทจีน คุณอาจต้องแลกเปลี่ยนสกุลเงินของคุณเป็นเงินหยวนของจีน ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นธุรกิจในสหรัฐฯ ที่นำเข้าสินค้าจากประเทศจีน คุณอาจต้องซื้อเงินหยวนจีนเพื่อชำระค่าสินค้าเหล่านั้น
- การซื้อขายฟอเร็กซ์: คุณสามารถแลกเปลี่ยนคู่สกุลเงินจีนในตลาดฟอเร็กซ์ได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณเชื่อว่าเงินหยวนจีนจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ คุณสามารถซื้อ USD/CNY ซึ่งหมายความว่าคุณกำลังซื้อดอลลาร์สหรัฐและขายหยวนจีน หากอัตราแลกเปลี่ยนสูงขึ้น คุณจะทำกำไรได้
- ฟิวเจอร์สและตัวเลือก: คุณสามารถแลกเปลี่ยนฟิวเจอร์สและตัวเลือกสกุลเงินจีนได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่กำหนดให้คุณต้องซื้อเงินหยวนจีนในวันและราคาในอนาคต หากราคาเงินหยวนจีนสูงขึ้น คุณสามารถขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อหากำไรได้ หรือคุณสามารถซื้อตัวเลือกการโทรที่ให้สิทธิ์คุณในการซื้อหยวนจีนในวันที่และราคาในอนาคต หากราคาเงินหยวนจีนสูงขึ้น คุณสามารถใช้ออปชั่นและซื้อเงินหยวนได้ในราคาที่ต่ำกว่า
- ETFs: คุณสามารถซื้อขายสกุลเงินจีนผ่าน ETF ได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น คุณสามารถซื้อ ETF ที่ติดตามผลการดำเนินงานของเงินหยวนจีน หากค่าเงินหยวนเพิ่มขึ้น มูลค่าของ ETF ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
- CFDs: คุณสามารถซื้อขายสกุลเงินจีนผ่าน CFDs ตัวอย่างเช่น คุณสามารถซื้อ CFD ที่ติดตามมูลค่าของเงินหยวนจีน หากค่าเงินหยวนเพิ่มขึ้น คุณจะทำกำไรได้ อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่า CFD เป็นตราสารที่มีความเสี่ยงสูงและอาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกคน
สิ่งสำคัญคือต้องทำการวิจัยและทำความเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องก่อนทำการซื้อขายสกุลเงินจีน คุณควรปรึกษากับที่ปรึกษาทางการเงินหรือนายหน้าเพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการซื้อขายที่ดีที่สุดสำหรับเป้าหมายการลงทุนและการยอมรับความเสี่ยงของคุณ
Curious about Forex trading? Time to take action!
Use our free demo account to practise trading 70+ different Forex pairs without risking real cash
สิ่งที่ควรทราบเมื่อซื้อขายสกุลเงินจีน
เมื่อทำการซื้อขายสกุลเงินจีน ต่อไปนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา:
- นโยบายเศรษฐกิจของจีน: รัฐบาลจีนมีอิทธิพลอย่างมากต่อมูลค่าของสกุลเงินผ่านนโยบายทางเศรษฐกิจ เช่น การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย และการแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จับตาดูนโยบายเหล่านี้และผลกระทบที่อาจส่งผลต่อมูลค่าของสกุลเงิน
- ความผันผวนของตลาด: เช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ เงินหยวนของจีนอาจประสบกับความผันผวนเนื่องจากเหตุการณ์ทางการเมืองหรือเศรษฐกิจ เช่น ข้อพิพาททางการค้าหรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาล ตระหนักถึงเหตุการณ์เหล่านี้และผลกระทบที่อาจส่งผลต่อสกุลเงิน
- คู่สกุลเงิน: หากคุณกำลังซื้อขายหยวนในตลาดฟอเร็กซ์ โปรดระวังคู่สกุลเงินที่คุณกำลังซื้อขาย ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อขาย USD/CNH คุณจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐอเมริกาและจีน
- เวลาทำการของตลาด: ตลาดสกุลเงินจีนมีเวลาการซื้อขายเฉพาะ ซึ่งอาจแตกต่างจากเวลาท้องถิ่นของคุณ โปรดระวังช่วงเวลาเหล่านี้และปรับกลยุทธ์การซื้อขายของคุณให้เหมาะสม
- แพลตฟอร์มการซื้อขายและโบรกเกอร์: เลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายที่มีชื่อเสียงและ โบรกเกอร์ ที่เสนอค่าธรรมเนียมที่แข่งขันได้ การดำเนินการที่เชื่อถือได้ และการสนับสนุนลูกค้าที่ดี
- การจัดการความเสี่ยง: เช่นเดียวกับการลงทุนอื่นๆ สิ่งสำคัญคือต้องจัดการความเสี่ยงเมื่อซื้อขายสกุลเงินจีน กำหนดคำสั่งหยุดการขาดทุนเพื่อลดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นให้เหลือน้อยที่สุดและมีกลยุทธ์การออกที่ชัดเจน
- ข้อบังคับ: ตระหนักถึงกฎระเบียบและข้อจำกัดในการซื้อขายสกุลเงินจีน ตัวอย่างเช่น อาจมีข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนหยวนจีนที่คุณสามารถซื้อหรือขายได้ หรือข้อจำกัดว่าใครสามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินได้
บทสรุป
การทำความเข้าใจสกุลเงินจีนกำลังมีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากจีนยังคงยืนยันอำนาจทางเศรษฐกิจของตนในตลาดโลกต่อไป ด้วยชื่อ สัญลักษณ์ และตลาดการซื้อขายที่แตกต่างกัน สกุลเงินจีนอาจดูซับซ้อนในตอนแรก แต่เป็นความรู้ที่สำคัญสำหรับทุกคนที่ต้องการลงทุนในประเทศหรือการค้าขาย
คำถามที่พบบ่อย
1. สกุลเงินอย่างเป็นทางการของจีนคืออะไร?
สกุลเงินอย่างเป็นทางการของจีนคือเงินหยวน (RMB) หรือที่เรียกว่าหยวน
2. RMB และหยวนแตกต่างกันอย่างไร?
RMB เป็นชื่ออย่างเป็นทางการของสกุลเงินจีน ในขณะที่หยวนเป็นหน่วยพื้นฐานของสกุลเงิน หยวนมักใช้สลับกับ RMB
3. CNY และ CNH แตกต่างกันอย่างไร?
CNY เป็นเวอร์ชันบนฝั่งของเงินหยวน ในขณะที่ CNH เป็นเวอร์ชันนอกชายฝั่ง เงินหยวนอยู่ภายใต้กฎระเบียบของรัฐบาลที่เข้มงวดมากขึ้น ในขณะที่ CNH มีการซื้อขายอย่างเสรีมากขึ้นในตลาดต่างประเทศ
4. ชาวต่างชาติสามารถลงทุนในสกุลเงินจีนได้หรือไม่?
ใช่ ชาวต่างชาติสามารถลงทุนในสกุลเงินจีนผ่านช่องทางต่างๆ เช่น พันธบัตรเงินหยวนในต่างประเทศ กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) และแพลตฟอร์มการซื้อขายสกุลเงิน
5. ปัจจัยอะไรที่ส่งผลต่อค่าเงินจีน?
มูลค่าของสกุลเงินจีนได้รับอิทธิพลจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย เหตุการณ์ทางการเมือง และการค้าระหว่างประเทศ
6. ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสกุลเงินจีนมีอะไรบ้าง?
เช่นเดียวกับการลงทุนอื่นๆ การซื้อขายสกุลเงินจีนมีความเสี่ยง เช่น ความผันผวนของตลาด ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ สิ่งสำคัญคือต้องทำการวิจัยอย่างละเอียดและทำความเข้าใจความเสี่ยงก่อนลงทุนในสกุลเงินจีน
7. ฉันจะรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสกุลเงินจีนและผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกได้อย่างไร
คุณสามารถรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสกุลเงินจีนและผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจโลกได้โดยการอ่านแหล่งข่าวทางการเงิน ติดตามตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ และติดตามเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อสกุลเงิน