คำเตือน: ข้อมูลนี้มาจากเว็บไซต์การเงินที่มีชื่อเสียงของกลุ่มธนาคารโลก เจพีมอร์แกน รีเสิร์ช และเอชเอสบีซี ข้อมูลนี้สะท้อนถึงการวิจัยอย่างละเอียด และเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจอาจเปลี่ยนแปลงสภาวะตลาดได้อย่างมาก และส่งผลให้การคาดการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้คุณทำการวิจัยด้วยตนเองและขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อตัดสินใจอย่างรอบรู้
ทองคำซึ่งมักเรียกกันว่า "สินทรัพย์ปลอดภัย" ถือเป็นรากฐานสำคัญของการเงินระดับโลกมาหลายศตวรรษ มูลค่าของทองคำได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ มากมาย เช่น ตัวบ่งชี้เศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และความรู้สึกของตลาด
ตั้งแต่อารยธรรมโบราณจนถึง ](/blog/trading-terms/investors/) นักลงทุน ในปัจจุบัน ทองคำเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่องเนื่องจากมีเสถียรภาพและ hedge ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ความน่าดึงดูดใจที่ยั่งยืนนี้ทำให้ราคามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยราคาทองคำมักจะสะท้อนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในวงกว้าง การทำความเข้าใจพลวัตเหล่านี้มีความสำคัญต่อการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในอนาคตและการตัดสินใจลงทุนอย่างรอบรู้
บทความนี้ให้ข้อมูลคาดการณ์ราคาทองคำอย่างครอบคลุมตั้งแต่ปี 2567 ถึงปี 2583 โดยวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญและการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญเพื่อแนะนำ นักลงทุน ผ่านภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาดทองคำ
ประเด็นสำคัญ: การคาดการณ์ราคาทองคำ
นักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าราคาทองคำในปี 2024 มีแนวโน้มในเชิงบวก โดยราคาอาจพุ่งแตะระดับ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปัจจัยดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ อัตราดอกเบี้ย และความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยทั่วโลก ผู้เชี่ยวชาญบางคนคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะซื้อขายในช่วง 2,800-3,200 ดอลลาร์ในปี 2025 ซึ่งสะท้อนถึงการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ
ในระยะยาว การคาดการณ์ราคาทองคำนั้นได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อ นโยบายของธนาคารกลาง และแนวโน้มเศรษฐกิจโลก นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจพุ่งสูงถึง 6,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในปี 2040 โดยประเมินอัตราผลตอบแทนไว้ที่ 7.2% ต่อปี นอกจากนี้ ความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกยังเป็นปัจจัยผลักดันเบื้องหลังการคาดการณ์ราคาทองคำในเชิงบวกอีกด้วย
ที่มา: TradingView.com, วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 09:00 GMT
ราคาทองคำจะแตะระดับสูงสุดในรอบปีอีกครั้งในปี 2567 หรือไม่?
ราคาทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2023 โดยนักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์แนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2024 จากข้อมูลของ J.P. Morgan Research ราคาทองคำคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปี 2024 โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยต่างๆ เช่น สหรัฐฯ ความกังวลเรื่องการขาดดุลทางการคลัง, เงินสำรองของธนาคารกลาง diversification เข้าสู่ทองคำ, อัตราเงินเฟ้อ hedging และภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่หลุดลุ่ย การคาดการณ์นี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์คนอื่นๆ โดยบางคนคาดการณ์ว่าราคาจะสูงขึ้นอีก เช่น เป้าหมายของ AG Thorson ที่ 3,000 ดอลลาร์
แนวโน้มของตลาดในปัจจุบันยังชี้ให้เห็นแนวโน้มราคาทองคำในปี 2024 bullish สภาทองคำโลกรายงานว่าธนาคารกลางซื้อทองคำ 1,037 ตันในปี 2023 โดยปี 2024 เริ่มต้นอย่างแข็งแกร่งด้วยสุทธิ ซื้อ 290 ตันในไตรมาสแรก ความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากธนาคารกลาง บวกกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินอยู่ มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาทองคำให้สูงขึ้นในปี 2567
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่น่าสังเกตว่ายังมีความเสี่ยง ที่เป็นขาลง ต่อการคาดการณ์ราคาทองคำ เช่น สถานการณ์ที่เฟดจะเข้มงวดมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะบรรลุเป้าหมายอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าปัจจัยขับเคลื่อนเชิงโครงสร้างที่ช่วยให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นจนถึงตอนนี้จะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นต่อไปในอนาคต ทำให้มีแนวโน้มว่าราคาทองคำจะพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในปี 2024
พยากรณ์ราคาทองคำเดือนสิงหาคม 2567
ราคาทองคำเริ่มพุ่งสูงขึ้นในเดือนสิงหาคม 2024 โดยแตะระดับสูงสุดใหม่เหนือ 2,483 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวโน้มขาขึ้นนี้ได้รับการสนับสนุนจากกระแสการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยเนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินอยู่และการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะผ่อนคลายลงอีก คาดว่าช่วงการซื้อขายปัจจุบันจะอยู่ระหว่าง 2,425 ถึง 2,465 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีระดับแนวต้านอยู่ที่ 2,465 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่าราคาทองคำในปี 2024 จะเคลื่อนไหวในเชิงบวก โดยคาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนไหวระหว่าง 2,421 ถึง 2,651 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนไหวในเชิงบวกมากกว่านั้น โดยคาดการณ์ว่าราคาอาจพุ่งไปถึง 2,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้นและความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหว เนื่องจาก นักลงทุน มองหาการลงทุนที่ปลอดภัยกว่า
การคาดการณ์ราคาทองคำในเดือนสิงหาคม 2567 ยังได้รับอิทธิพลจากนโยบายการเงินของธนาคารกลาง โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐ การผ่อนคลายนโยบายการเงินและการลดอัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะกระตุ้นความต้องการเสี่ยงในหมู่ นักลงทุน ซึ่งอาจนำไปสู่ราคาทองคำที่สูงขึ้น นอกจากนี้ การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นในสหรัฐและสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังคงดำเนินอยู่ก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น
พยากรณ์ราคาทองคำ เดือนกันยายน 2567
การคาดการณ์ ราคาทองคำ สำหรับเดือนกันยายน 2024 มีการผสมผสานระหว่างเสถียรภาพและความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น จากข้อมูลล่าสุด ทองคำได้ทำลายสถิติตลอดกาลและแตะราคาปัจจุบันที่ 2,386.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การเพิ่มขึ้นนี้ส่วนใหญ่ได้รับแรงผลักดันจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่สูง และความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
ในเดือนกันยายน 2024 คาดว่าราคาทองคำจะผันผวนในช่วง 2,212 ถึง 2,444 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2,331 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การคาดการณ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินอยู่และการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งอาจผลักดันให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้นอีก
คาดว่าระดับแนวรับสำคัญสำหรับทองคำในเดือนกันยายน 2024 จะอยู่ที่ประมาณ 2,060 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีความเป็นไปได้ที่จะปรับตัวลงมาที่ระดับนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบันและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทองคำจึงมีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นที่ต้องการสูง ซึ่งจะหนุนราคา
พยากรณ์ราคาทองคำเดือนตุลาคม 2567
ราคาทองคำในเดือนตุลาคม 2024 คาดว่าจะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยสำคัญหลายประการ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินอยู่ โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง มีแนวโน้มที่จะทำให้ราคาทองคำยังคงสูงขึ้น นอกจากนี้ การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี 2024 อาจช่วยผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอีก โดยปัจจุบันราคาทองคำอยู่ที่ 2,431.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเป้าหมายต่อไปที่ต้องจับตาคือ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวโน้มขาขึ้นของกราฟทองคำและตัวบ่งชี้สำคัญบ่งชี้ว่าทองคำอาจเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 2,550 ดอลลาร์ในปี 2024 การคาดการณ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาทองคำเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งได้แซงหน้าการคาดการณ์หลายๆ อย่างสำหรับปีนี้ไปแล้ว ความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์และศักยภาพในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทำให้การพุ่งขึ้นของราคาทองคำอีกครั้งดูเป็นไปได้
ในบริบทของแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวม การคาดการณ์ราคาทองคำในเดือนตุลาคม 2024 ยังได้รับอิทธิพลจากความแข็งแกร่งของดอลลาร์และภูมิทัศน์เศรษฐกิจโดยรวม เมื่ออัตราดอกเบี้ยเริ่มลดลง ราคาทองคำอาจแตะระดับสูงสุดใหม่ เป้าหมายราคาเฉลี่ยของทองคำในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 อยู่ที่ประมาณ 2,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามข้อมูลของ JPMorgan Chase & Co. ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2024
ราคาทองคำในเดือนพฤศจิกายน 2567 มีแนวโน้มว่าราคาทองคำในเดือนพฤศจิกายน 2567 จะได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย การเคลื่อนไหวดังกล่าวคาดว่าจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ทำให้ทองคำน่าดึงดูดใจ นักลงทุน มากขึ้น นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยังคงดำเนินอยู่ จะยังคงผลักดันความต้องการทองคำในสินทรัพย์ปลอดภัยต่อไป ธนาคารกลางซึ่งเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่มีแนวโน้มที่จะรักษาอัตราการซื้อไว้ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาทองคำสูงขึ้นต่อไป
ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,431.85 ดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการปรับขึ้นราคาต่อไป นักวิเคราะห์จาก J.P. Morgan และสถาบันการเงินอื่นๆ คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจแตะระดับ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปี 2024 โดยได้รับแรงผลักดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่เป็นขาขึ้น เช่น การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและการกระจายความเสี่ยงของเงินสำรองของธนาคารกลางสู่ทองคำ การกำหนดค่าของตัวบ่งชี้หลักของทองคำที่เป็นขาขึ้น เช่น ยูโร (USD) อัตราผลตอบแทนพันธบัตร และอัตราเงินเฟ้อ ยังสนับสนุนศักยภาพของทองคำที่จะแตะระดับสูงสุดใหม่ได้ในเดือนพฤศจิกายน 2024
ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยเล็กน้อยและวิกฤตค่าครองชีพที่ยังคงดำเนินต่อไปจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเช่นกัน นักลงทุน ที่มองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอาจหันมาซื้อทองคำ ส่งผลให้ราคาทองคำสูงขึ้น เป้าหมายราคาเฉลี่ยของทองคำในเดือนพฤศจิกายน 2024 ตามที่นักวิเคราะห์ต่างๆ คาดการณ์ไว้ อยู่ในช่วง 2,000 ถึง 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบางรายคาดการณ์ไว้สูงถึง 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ช่วงราคาที่กว้างนี้เน้นย้ำถึงความไม่แน่นอนและความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในตลาดทองคำ ทำให้ นักลงทุน จำเป็นต้องติดตามข้อมูลและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม
คาดการณ์ราคาทองคำ เดือนธันวาคม 2567
คาดว่าราคาทองคำจะยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคม 2024 โดยได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินอยู่และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ นักวิเคราะห์จาก WalletInvestor คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะไปถึง 2,150.53 ดอลลาร์ภายในเดือนธันวาคม 2024 ซึ่งสะท้อนถึงสถานะของโลหะชนิดนี้ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนทางการเมืองและความผันผวนทางเศรษฐกิจ การคาดการณ์นี้สอดคล้องกับฉันทามติที่กว้างกว่าว่าทองคำจะรักษามูลค่าไว้ในฐานะเครื่องมือป้องกัน inventions จากภาวะเงินเฟ้อและความผันผวนของตลาด
กลุ่มธนาคารโลกยังสนับสนุนมุมมองเชิงบวกต่อทองคำ โดยคาดการณ์ราคาเฉลี่ยที่ 2,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2024 การคาดการณ์นี้ขึ้นอยู่กับสมมติฐานที่ว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางอาจนำไปสู่ความไม่แน่นอนของโลกที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ราคาเฉลี่ยที่ 1,775 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับอิทธิพลจากการคาดการณ์เงินเฟ้อและสถานะของ ตลาดการเงิน
แนวโน้มขาขึ้นของราคาทองคำได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมโดย J.P. Morgan Research ซึ่งคาดว่าราคาทองคำจะพุ่งไปถึง 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปี 2024 การคาดการณ์นี้ขึ้นอยู่กับสมมติฐานที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤศจิกายน 2024 ซึ่งจะผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ ปัจจัยขับเคลื่อนเชิงโครงสร้างที่สนับสนุนการพุ่งขึ้นของราคาทองคำ รวมถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการกระจายความเสี่ยงของเงินสำรองของธนาคารกลาง คาดว่าจะยังคงเป็นแรงผลักดันขาขึ้นที่สำคัญต่อไปในอนาคต
คาดการณ์ราคาทองคำปี 2568
การคาดการณ์ราคาทองคำในปี 2025 เป็นประเด็นที่นักวิเคราะห์ถกเถียงกันอย่างมาก นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะลดลง คาดว่าปีนี้จะมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง และนักลงทุนให้ความสนใจในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
คาดว่าราคาทองคำจะทรงตัวที่ 2,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในไตรมาสแรกของปี 2568 ก่อนที่จะลดลงเหลือ 2,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในไตรมาสสุดท้าย ความผันผวนนี้เกิดจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินอยู่และความเสี่ยงที่ธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความน่าดึงดูดใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
การคาดการณ์ราคาทองคำใหม่ของ HSBC คาดว่าราคาจะลดลง 12% ในปี 2025 โดยคาดว่าราคาจะลดลงจาก 2,105 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็น 1,980 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การคาดการณ์นี้อิงจากการคาดการณ์ว่าอัตราจริงจะมีผลต่อราคาทองคำในช่วงปลายปี 2024 และไปจนถึงปี 2025 แม้จะเป็นเช่นนี้ คาดว่าการซื้ออย่างหนักในตลาดนอกตลาดและด้วยเงินจริงของ นักลงทุน จะช่วยชดเชยแนวโน้มดังกล่าว
ในทางกลับกัน นักวิเคราะห์บางคนมีมุมมองที่เป็นบวกมากกว่า โดยคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะพุ่งสูงถึง 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2025 ความเชื่อมั่นดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากความเชื่อที่ว่าการซื้อของธนาคารกลางและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์จะยังคงสนับสนุนราคาทองคำต่อไป อุปสรรคทางจิตวิทยาที่ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ และเมื่อทะลุผ่านอุปสรรคดังกล่าวได้ อาจเปิดประตูสู่ราคาที่สูงขึ้นมากภายในปี 2025
พยากรณ์ราคาทองคำปี 2573
นักเศรษฐศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญได้เสนอกรณีที่น่าสนใจสำหรับราคาทองคำที่แตะระดับ 7,000 ดอลลาร์ภายในปี 2573 ทฤษฎีนี้มีสาเหตุมาจากประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งของทองคำจากการลดอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงและการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ในอดีต ทองคำทำงานได้ดีเมื่ออัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่ำ เนื่องจากกลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่น่าดึงดูดใจมากกว่าเมื่อเทียบกับเงินสดและ พันธบัตร
อีกทฤษฎีหนึ่งมองว่านักวิเคราะห์การลงทุนคาดการณ์ตลาดกระทิงที่สำคัญสำหรับทองคำภายในปี 2573 การคาดการณ์นี้อิงจากการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์และโลกาภิวัตน์ ซึ่งเชื่อว่าจะผลักดันความต้องการทองคำให้สูงขึ้น การคาดการณ์ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับแนวคิดเดียวกัน เช่น การวิ่งกระทิง 10 ปีในโลหะมีค่าในช่วงเปลี่ยนศตวรรษ มีความแม่นยำ ซึ่งให้ความน่าเชื่อถือต่อสิ่งนี้ พยากรณ์.
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนยังสนับสนุนแนวคิดตลาดกระทิงทองคำ โดยภายใต้สมมติฐานนี้ อัตราเงินเฟ้อที่สูงและการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการเงินและการคลังจะเพิ่มความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ คาดว่าความต้องการของธนาคารกลางจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนแนวโน้มนี้ ส่งผลให้ราคาทองคำอาจปรับตัวสูงขึ้นได้
เหตุใดจึงพลาดศักยภาพของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์?
ค้นพบโอกาสที่ยังไม่ได้ใช้ใน CFD สินค้าโภคภัณฑ์ชั้นนำ เช่น ทองคำ เงิน และน้ำมัน
พยากรณ์ราคาทองคำปี 2040
คาดว่าราคาทองคำจะยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปี 2040 เนื่องมาจากความต้องการที่ต่อเนื่องและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ สภาทองคำโลกคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะอยู่ที่ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเน้นย้ำถึงความน่าดึงดูดใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและ hedge ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ โกลด์แมนแซคส์มีจุดยืนที่เป็นบวกมากขึ้น โดยคาดการณ์ราคาไว้ที่ 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ การคาดการณ์เหล่านี้เน้นย้ำถึงศักยภาพของทองคำที่จะยังคงเป็นตัวเลือกการลงทุนที่มีค่าต่อไป ศักยภาพการลงทุนในระยะยาวของทองคำยังคงแข็งแกร่ง โดยมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากภายในปี 2040 ในอดีต ราคาทองคำได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละประมาณ 7% ในระยะยาว แนวโน้มในอดีตนี้สนับสนุนการมองในแง่ดีของทองคำในอนาคต
วิธีวิเคราะห์ราคาทองคำ
การวิเคราะห์ราคาทองคำเกี่ยวข้องกับการทำความเข้าใจปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อมูลค่าของทองคำ ปัจจัยเหล่านี้ได้แก่ ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และอารมณ์ของตลาด
ทำความเข้าใจตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ
ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจมีบทบาทสำคัญในการกำหนดราคาทองคำ ตัวชี้วัดสำคัญ เช่น อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และการเติบโตของ GDP อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาทองคำ ตัวอย่างเช่น ในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อสูง ทองคำมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเนื่องจากนักลงทุนแสวงหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพื่อรักษาความมั่งคั่งของพวกเขา ในทางกลับกัน อัตราดอกเบี้ยที่สูงอาจทำให้ทองคำมีความน่าดึงดูดน้อยลง ส่งผลให้ราคาลดลง นโยบายของธนาคารกลาง เช่น มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ อาจมีอิทธิพลต่อราคาทองคำโดยส่งผลต่อปริมาณเงินและอัตราดอกเบี้ย
ความคาดหวังต่ออัตราเงินเฟ้อเป็นอีกปัจจัยสำคัญ เมื่อคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น อำนาจซื้อของเงินก็ลดลง ส่งผลให้ นักลงทุน ซื้อสินทรัพย์ทางกายภาพ เช่น ทองคำ เพื่อรักษามูลค่าไว้ ส่งผลให้ราคาทองคำสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม หากอัตราเงินเฟ้อได้รับการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพและรักษาเสถียรภาพของราคาไว้ได้ ความต้องการทองคำอาจลดลง ส่งผลให้ราคาทองคำลดลง
ข้อมูลในอดีตแสดงให้เห็นว่าราคาทองคำมักสะท้อนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวม ตัวอย่างเช่น ในช่วงการระบาดของ COVID-19 ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นเนื่องจาก นักลงทุน มองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การทำความเข้าใจตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจเหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในอนาคต
การประเมินเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์
เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อราคาทองคำ ความไม่มั่นคงทางการเมือง สงครามการค้า และความขัดแย้งต่างๆ อาจทำให้ นักลงทุน หันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เช่น ทองคำ ซึ่งทำให้ราคาทองคำสูงขึ้น ตัวอย่างเช่น ความตึงเครียดที่ยังคงมีอยู่ระหว่างมหาอำนาจของโลกได้ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ แนวโน้มการเลิกใช้เงินดอลลาร์ ซึ่งประเทศต่างๆ หันเหออกจากดอลลาร์สหรัฐ อาจส่งผลต่อราคาทองคำได้เช่นกัน เนื่องจาก นักลงทุน มองหาแหล่งสำรองมูลค่าอื่นๆ
ผลกระทบของเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ต่อราคาทองคำมักเกิดขึ้นทันทีและสำคัญ ตัวอย่างเช่น ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจาก นักลงทุน พยายาม hedge ความเสี่ยงจากความไม่แน่นอน การทำความเข้าใจพลวัตทางภูมิรัฐศาสตร์เหล่านี้มีความสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนอย่างรอบรู้ในตลาดทองคำ
เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ยังส่งผลต่อราคาทองคำโดยมีผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจโลก ตัวอย่างเช่น สงครามการค้าอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำสูงขึ้น ในทางกลับกัน ช่วงเวลาที่การเมืองมีเสถียรภาพและเศรษฐกิจเติบโตอาจส่งผลให้ราคาทองคำลดลง เนื่องจาก นักลงทุน มีความอดทนต่อความเสี่ยงมากขึ้น
สไตล์การเทรดของคุณคืออะไร?
ไม่ว่าสนามแข่งขันจะเป็นอย่างไร การรู้จักสไตล์ของคุณคือก้าวแรกสู่ความสำเร็จ
การวิเคราะห์อารมณ์ของตลาด
ความรู้สึกของตลาดเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดราคาทองคำ ความรู้สึกของตลาดอาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วโดยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และนโยบายของธนาคารกลาง เครื่องมือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น ระดับ แนวรับและแนวต้าน เส้นแนวโน้ม และ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ สามารถช่วยระบุความรู้สึกของตลาดและคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตได้
การวิเคราะห์ทางเทคนิค จะตรวจสอบข้อมูลราคาและปริมาณในอดีตเพื่อระบุรูปแบบและแนวโน้มที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ตัวอย่างเช่น หากราคาทองคำดีดตัวออกจากระดับแนวรับบางระดับอย่างต่อเนื่อง อาจบ่งชี้ถึงความต้องการที่แข็งแกร่งในระดับนั้น ในทางกลับกัน หากราคาทะลุระดับแนวต้าน อาจส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงในความรู้สึกของตลาดไปสู่ราคาที่สูงขึ้น
ความรู้สึกของตลาดยังได้รับอิทธิพลจากการรับรู้และความคาดหวังของนักลงทุน ตัวอย่างเช่น หาก นักลงทุน เชื่อว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ พวกเขาอาจซื้อทองคำ ส่งผลให้ราคาทองคำสูงขึ้น ในทางกลับกัน หาก นักลงทุน คาดหวังว่าสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจจะมั่นคง พวกเขาอาจขายทองคำ ส่งผลให้ราคาทองคำลดลง การทำความเข้าใจความรู้สึกของตลาดผ่าน การวิเคราะห์ทางเทคนิค และเครื่องมืออื่นๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจลงทุนอย่างรอบรู้ในตลาดทองคำ
จะมีอะไรดีไปกว่าการต้อนรับคุณด้วยโบนัส
เริ่มต้นเทรดด้วยโบนัส $30 สําหรับการฝากครั้งแรกของคุณ
เป็นไปตามข้อกําหนดและเงื่อนไข
บทสรุป
การคาดการณ์ราคาทองคำในช่วงปี 2024-2040 เน้นย้ำถึงความน่าดึงดูดใจของโลหะชนิดนี้ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และความผันผวนทางเศรษฐกิจ แนวโน้มขาขึ้นที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งขับเคลื่อนโดยปัจจัยต่างๆ เช่น การกระจายความเสี่ยงของเงินสำรองของธนาคารกลาง การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินอยู่ เน้นย้ำถึงความยืดหยุ่นและศักยภาพในการเติบโตในระยะยาวของทองคำ