อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน คืออะไร และเหตุใดจึงสำคัญ?
หลายๆ คนไม่เข้าใจว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน หมายถึงอะไรหรือทำไมจึงมีความสำคัญ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เป็นวิธีวัดการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนสินค้าและบริการ ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ซึ่งอาจผันผวนได้มาก โดยการเน้นที่ราคาที่เสถียรมากขึ้น อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ช่วยให้เราเห็นแนวโน้มพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงราคา ตัวอย่างเช่น การผันผวนของราคา Bitcoin วันนี้ อาจทำให้เกิดความผันผวนในระยะสั้นในตลาดสกุลเงินดิจิทัล อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ยังให้มุมมองที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจด้วยการไม่นับองค์ประกอบที่ผันผวน
ตัวอย่าง อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
ลองนึกภาพว่าคุณกำลังซื้อของชำและสังเกตเห็นว่าราคาขนมปังและนมยังคงเท่าเดิม แต่ราคาผักกลับสูงขึ้นเนื่องจากผลผลิตที่ลดลง ในขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันก็เพิ่มขึ้นเช่นกันเนื่องจากเหตุการณ์ระหว่างประเทศ หากเราพิจารณาถึงอัตราเงินเฟ้อโดยรวม อาจดูเหมือนว่าราคากำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เน้นไปที่ราคาที่เสถียรมากขึ้นโดยไม่รวมต้นทุนอาหารและพลังงาน ในกรณีนี้ แม้ว่าผักและน้ำมันจะมีราคาแพงขึ้น แต่ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน จะแสดงให้เห็นว่าราคาของสินค้าอื่นๆ ส่วนใหญ่ เช่น ขนมปังและนม ยังคงเสถียรอยู่ ซึ่งจะช่วยให้เห็นภาพแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงราคาได้ชัดเจนขึ้น โดยไม่ได้รับผลกระทบจากการพุ่งสูงขึ้นชั่วคราวของราคาอาหารและพลังงาน
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน รวมอะไรบ้าง
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน หมายถึงราคาสินค้าและบริการที่ผู้คนซื้อเป็นประจำ ยกเว้นอาหารและพลังงาน ซึ่งหมายถึงราคาสินค้าที่หลากหลาย เช่น เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัย การดูแลทางการแพทย์ การศึกษา และความบันเทิง ตัวอย่างเช่น ค่าเช่าบ้าน ค่ารักษาพยาบาล ค่าตั๋วหนัง และอุปกรณ์การเรียน ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
การไม่นับรวมอาหารและพลังงานซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงราคาที่ไม่สามารถคาดเดาได้ จะทำให้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน มีภาพรวมที่ชัดเจนและมั่นคงยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของค่าครองชีพโดยรวม ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจแนวโน้มเงินเฟ้อในระยะยาวและสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจได้ดีขึ้น
ความแตกต่างระหว่าง CPI และ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน คืออะไร?
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน | |
---|---|---|
คำนิยาม | วัดการเปลี่ยนแปลงโดยรวมของราคาสินค้าและบริการทั้งหมด | วัดการเปลี่ยนแปลงราคาโดยไม่รวมอาหารและพลังงาน |
รวมถึง | ราคาสินค้าทุกประเภทรวมทั้งอาหารและพลังงาน | ราคาสินค้าไม่รวมอาหารและพลังงาน |
ความผันผวน | ผันผวนมากขึ้นเนื่องจากการรวมราคาอาหารและพลังงาน | มีความผันผวนน้อยลง ทำให้แนวโน้มราคามีเสถียรภาพมากขึ้น |
วัตถุประสงค์ | สะท้อนประสบการณ์เงินเฟ้อรวมของผู้บริโภค | แสดงแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานโดยที่ไม่มีการพุ่งสูงในระยะสั้น |
รายการตัวอย่างรวม | ค่าของชำ, น้ำมันเบนซิน, เสื้อผ้า, การรักษาพยาบาล, ที่อยู่อาศัย | เครื่องนุ่งห่ม การดูแลทางการแพทย์ ที่อยู่อาศัย การศึกษา ความบันเทิง (ไม่รวมอาหารและพลังงาน) |
การใช้ในนโยบาย | ใช้เพื่อทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงต้นทุนการครองชีพโดยรวม | ใช้ในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจและกำหนดนโยบาย เนื่องจากมีความมั่นคง |
สัมผัสประสบการณ์แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Skilling
ลองใช้แพลตฟอร์มการซื้อขายของ Skilling บนอุปกรณ์ที่คุณเลือกผ่านเว็บ Android หรือ iOS
สรุป
ดังที่คุณได้เห็นแล้ว อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ช่วยให้มองเห็นภาพแนวโน้มราคาในระยะยาวได้ชัดเจนขึ้น โดยไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวนบ่อยครั้ง การวัดนี้ช่วยให้นักเศรษฐศาสตร์และผู้กำหนดนโยบายเข้าใจทิศทางที่แท้จริงของอัตราเงินเฟ้อและสามารถตัดสินใจได้อย่างรอบรู้
อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ไม่ได้มีไว้สำหรับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์สำหรับใครก็ตามที่ต้องการเข้าใจภาวะเศรษฐกิจและวางแผนการเงินให้ดีขึ้นด้วย
คำถามที่พบบ่อย
1. ทำไมอาหารและพลังงานจึงไม่รวมอยู่ใน อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
ราคาอาหารและพลังงานอาจผันผวนอย่างมากเนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพอากาศและเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ การไม่นับปัจจัยเหล่านี้เข้าไป จะทำให้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน สะท้อนแนวโน้มเงินเฟ้อพื้นฐานได้แม่นยำและเสถียรยิ่งขึ้น
2. อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน คำนวณอย่างไร?
โดยทั่วไปอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะคำนวณโดยใช้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) แต่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ติดตามการเปลี่ยนแปลงราคาของตะกร้าสินค้าและบริการที่หลากหลายในช่วงเวลาหนึ่ง
3. อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน มีรายการอะไรบ้าง?
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ครอบคลุมสินค้าและบริการหลากหลายประเภท เช่น เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย การดูแลทางการแพทย์ การศึกษา และความบันเทิง แต่ไม่รวมอาหารและพลังงาน
4. อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน แตกต่างจากดัชนี CPI โดยรวมอย่างไร?
แม้ว่าดัชนี CPI โดยรวมจะรวมรายการทั้งหมด รวมถึงอาหารและพลังงาน แต่ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน จะไม่รวมรายการที่มีความผันผวนเหล่านี้ เพื่อให้การวัดการเปลี่ยนแปลงราคามีเสถียรภาพมากขึ้น
5. เหตุใด อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน จึงมีความสำคัญ?
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน มีความสำคัญเนื่องจากช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายและนักเศรษฐศาสตร์เข้าใจแนวโน้มเงินเฟ้อพื้นฐานได้โดยไม่ได้รับผลกระทบจากการพุ่งสูงขึ้นของราคาอาหารและพลังงานในระยะสั้น ข้อมูลนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างรอบรู้
6. อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยอย่างไร?
ธนาคารกลาง เช่น Federal Reserve มักใช้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็นแนวทางในการตัดสินใจในการกำหนด อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่มีเสถียรภาพสามารถบ่งบอกถึงเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งนำไปสู่อัตราดอกเบี้ยที่มีเสถียรภาพ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่เพิ่มขึ้นอาจกระตุ้นให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
7. อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน สามารถใช้คาดการณ์แนวโน้มเงินเฟ้อในอนาคตได้หรือไม่
ใช่ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน มักใช้ในการคาดการณ์แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในอนาคต เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานช่วยให้วัดการเปลี่ยนแปลงราคาได้เสถียรและสอดคล้องกันมากขึ้น ซึ่งช่วยระบุรูปแบบในระยะยาวได้
8. อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน มีการรายงานบ่อยเพียงใด?
โดยทั่วไป อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน จะรายงานเป็นรายเดือนโดยเป็นส่วนหนึ่งของรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เผยแพร่โดยหน่วยงานสถิติของรัฐบาล
9. อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน มีผลกระทบต่อผู้บริโภคทั่วไปหรือไม่?
ใช่ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคทั่วไป เนื่องจากสะท้อนถึงแนวโน้มระยะยาวในการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการส่วนใหญ่ที่พวกเขาซื้อเป็นประจำ ยกเว้นอาหารและพลังงาน การทำความเข้าใจ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน จะช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจทางการเงินได้อย่างรอบรู้
ที่มา: investopedia.com