คุณเคยสังเกตไหมว่ารูปแบบบางอย่างในแผนภูมิเมื่อทำการซื้อขายนั้นบ่งชี้ว่าราคาอาจลดลง รูปแบบเหล่านี้เรียกว่ารูปแบบ แท่งเทียน เทียนขาลง รูปแบบเหล่านี้ช่วยให้ ผู้ซื้อขาย คาดการณ์ได้ว่าราคาสินทรัพย์จะเริ่มลดลงเมื่อใด การทำความเข้าใจรูปแบบเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าควรขายหรือหลีกเลี่ยงการซื้อเมื่อใด ในคู่มือนี้ เราจะมาสำรวจว่ารูปแบบ แท่งเทียน ขาลงคืออะไร เน้นรูปแบบสำคัญ 5 ประการที่คุณควรทราบ และหารือเกี่ยวกับเคล็ดลับสำคัญสำหรับการวิเคราะห์อย่างมีประสิทธิภาพ
รูปแบบ แท่งเทียน ขาลงหมายถึงอะไร?
รูปแบบ แท่งเทียน ขาลงเป็นตัวบ่งชี้ที่บ่งชี้ว่าราคาของสินทรัพย์อาจลดลง รูปแบบเหล่านี้ปรากฏบนแผนภูมิราคาและผู้ซื้อขายใช้เพื่อคาดการณ์ว่าตลาดจะเปลี่ยนไปเป็นลบหรือขาลงเมื่อใด เมื่อรูปแบบขาลงเกิดขึ้น มักหมายความว่าผู้ขายกำลังได้รับกำลัง ทำให้ราคาลดลง ผู้ซื้อขายมักใช้รูปแบบเหล่านี้เพื่อตัดสินใจว่าเมื่อใดควรขายหรือหลีกเลี่ยงการซื้อ
สมมติว่า ราคาทองคำ ซื้อขายอยู่ที่ $2,300 รูปแบบแท่งเทียนขาลงอาจส่งสัญญาณว่าราคาอาจลดลงต่ำกว่าระดับนี้ ตัวอย่างเช่น หากคุณเห็นรูปแบบขาลง อาจหมายความว่าราคาทองคำอาจเริ่มลดลง ซึ่งอาจตกลงไปที่ 2,250 ดอลลาร์หรือต่ำกว่า สิ่งนี้ช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจว่าควรขายทองคำตอนนี้หรือไม่เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น
รูปแบบ แท่งเทียน ขาลง 5 แบบที่คุณควรทราบ
1.แขวนคอคน
กราฟนี้ใช้เพื่อการสาธิตเท่านั้น
รูปแบบ Hanging Man เป็นตัวบ่งชี้การกลับตัวของขาลงที่ปรากฏในตอนท้ายของ แนวโน้มขาขึ้น โดยมีตัวแบบขนาดเล็กที่ปลายด้านบนของช่วงการซื้อขายโดยมีไส้เทียนด้านล่างที่ยาวและไม่มีไส้เทียนด้านบนเลย ไส้เทียนด้านล่างที่ยาวบ่งบอกว่าผู้ขายผลักราคาให้ต่ำลงระหว่างเซสชั่น แต่ผู้ซื้อสามารถดึงราคากลับขึ้นไปได้บ้างเมื่อปิดตลาด อย่างไรก็ตาม การไม่สามารถรักษาระดับสูงสุดได้บ่งบอกว่าผู้ซื้อกำลังสูญเสียการควบคุม
2.เมฆดำปกคลุม
กราฟนี้ใช้เพื่อการสาธิตเท่านั้น
รูปแบบ Dark Cloud Cover เกิดขึ้นระหว่างแนวโน้มขาขึ้น เมื่อแท่งเทียนขาลง (หรือ "กลุ่มเมฆดำ") เปิดเหนือราคาปิดของแท่งเทียน ขาขึ้น ก่อนหน้า จากนั้นจึงปิดตัวลงได้ดีในแท่งเทียนขาขึ้นนั้น โดยปกติจะปิดมากกว่าครึ่งหนึ่ง รูปแบบนี้บ่งชี้ว่าหลังจากเปิดตัวอย่างแข็งแกร่ง ผู้ขายก็เข้ามาควบคุมในช่วงเซสชั่น ทำให้ราคาลดลงอย่างมากและทำให้เกิด "กลุ่มเมฆดำ" เหนือแนวโน้มขาขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจเกิดการกลับตัวหรือการ ย่อตัว อย่างมีนัยสำคัญ
3. การกลืนกินแบบหมี
กราฟนี้ใช้เพื่อการสาธิตเท่านั้น
รูปแบบการกลืนกินของราคาแบบ Bearish จะเกิดขึ้นในช่วงท้ายของแนวโน้มขาขึ้น โดยประกอบด้วยแท่งเทียนขาขึ้นขนาดเล็กที่ตามมาด้วยแท่งเทียนขาลงขนาดใหญ่ที่กลืนกินแท่งเทียนก่อนหน้าจนหมด รูปแบบนี้บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัมจากผู้ซื้อเป็นผู้ขาย โดยผู้ขายมีอำนาจเหนือตลาดและอาจดันให้ราคาลดลง ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลงที่อาจเกิดขึ้นได้
4. ดาวตอนเย็น
กราฟนี้ใช้เพื่อการสาธิตเท่านั้น
รูปแบบ Evening Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนสามแท่งที่ส่งสัญญาณการกลับตัวในแนวโน้มขาขึ้น แท่งเทียนแท่งแรกเป็นแท่งเทียนขาขึ้นขนาดใหญ่ แท่งเทียนแท่งที่สองเป็นแท่งเทียนขนาดเล็กที่มีช่องว่างเหนือแท่งเทียนแท่งแรก และแท่งเทียนแท่งที่สามเป็นแท่งเทียนขาลงที่ปิดตัวได้ดีในแท่งเทียนแท่งแรก รูปแบบนี้แสดงให้เห็นว่าหลังจากที่เกิดความลังเล (แสดงด้วยแท่งเทียนขนาดเล็กแท่งที่สอง) ผู้ขายได้เปรียบ ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม
5.อีกาดำสามตัว
กราฟนี้ใช้เพื่อการสาธิตเท่านั้น
รูปแบบ Three Black Crows ประกอบด้วยแท่งเทียนขาลงที่มีลำตัวยาวติดต่อกันสามแท่งที่เปิดภายในลำตัวของแท่งเทียนก่อนหน้าและปิดตัวต่ำกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า รูปแบบนี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าตลาดอยู่ในภาวะขาลง โดยผู้ขายกดราคาลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสามเซสชั่น ซึ่งบ่งชี้ว่ามีแนวโน้มขาลงอย่างแข็งแกร่ง
ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ไม่มีส่วนบวกเพิ่ม
Apple, Amazon, NVIDIA
31/10/2024 | 13:30 - 20:00 UTC
สิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อวิเคราะห์รูปแบบ แท่งเทียน ขาลง
1. แนวโน้มโดยรวม
มองภาพรวมเสมอ หากตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นเป็นเวลานาน รูปแบบ แท่งเทียน ขาลงอาจบ่งชี้ถึงการกลับตัว อย่างไรก็ตาม หากตลาดอยู่ในแนวโน้มขาลงแล้ว รูปแบบดังกล่าวอาจยืนยันแนวโน้มที่กำลังดำเนินอยู่ แทนที่จะเป็นสัญญาณของแนวโน้มใหม่
2. การยืนยันปริมาณ
ปริมาณการซื้อขายระหว่างการก่อตัวของรูปแบบสามารถบอกคุณได้ว่ารูปแบบนั้นแข็งแกร่งเพียงใด ปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้นระหว่างรูปแบบขาลงหมายความว่าผู้ซื้อขายจำนวนมากขึ้นกำลังขาย ซึ่งเป็นการเสริมสัญญาณว่าราคาอาจลดลงต่อไป
3. ตำแหน่งของรูปแบบ
ประสิทธิภาพของรูปแบบ แท่งเทียน ขาลงนั้นขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ปรากฏบนแผนภูมิ หากรูปแบบนี้ปรากฏขึ้นหลังจากแนวโน้มขาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มีแนวโน้มสูงที่จะส่งสัญญาณการกลับตัว แต่หากรูปแบบนี้อยู่ท่ามกลางตลาดที่ผันผวนและไม่มีทิศทางที่ชัดเจน สัญญาณดังกล่าวอาจอ่อนลง
สัมผัสประสบการณ์แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Skilling
ลองใช้แพลตฟอร์มการซื้อขายของ Skilling บนอุปกรณ์ที่คุณเลือกผ่านเว็บ Android หรือ iOS
4. ตัวบ่งชี้อื่น ๆ
อย่าพึ่งพารูปแบบ แท่งเทียน เพียงอย่างเดียว ให้ใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่RSI (ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพันธ์) หรือ MACD (Moving Average Convergence Divergence) เพื่อยืนยันสิ่งที่รูปแบบกำลังบอกคุณ ซึ่งสามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงสัญญาณหลอกได้
5. สภาวะตลาด
พิจารณาถึงสภาวะตลาดโดยรวม เช่น ข่าวเศรษฐกิจหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อความรู้สึกของตลาด ตัวอย่างเช่น หากมีการประกาศเศรษฐกิจสำคัญในเร็วๆ นี้ ตลาดอาจเคลื่อนไหวแบบคาดเดาไม่ได้ และสัญญาณของรูปแบบอาจเชื่อถือได้น้อยลง
บทสรุป
ดังที่คุณได้เรียนรู้ รูปแบบแท่งเทียนขาลงสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับการพลิกกลับของตลาดที่อาจเกิดขึ้น ช่วยให้ผู้ซื้อขายระบุโอกาสในการใช้ประโยชน์จากแนวโน้มที่ลดลง การรับรู้รูปแบบ เช่น Evening Star หรือ Bearish Engulfing อาจส่งสัญญาณว่าเมื่อใดควรพิจารณาสถานะตลาดหมี อย่างไรก็ตาม การใช้รูปแบบแท่งเทียนเพียงอย่างเดียวโดยไม่พิจารณาสภาวะตลาดในวงกว้างหรือตัวชี้วัดอื่นๆ อาจมีความเสี่ยง การจัดการความเสี่ยง ที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการบรรเทาความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น เช่น การกำหนดคำสั่งหยุดการขาดทุน และการกระจายการซื้อขายของคุณ ที่มา: elearnmarkets.com
เปิดบัญชีซื้อขาย CFD Skilling ฟรีวันนี้: สินทรัพย์มากกว่า 1,200 รายการทั่วโลก รวมถึง สกุลเงินดิจิทัลหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์Forex และอื่นๆ อีกมากมายให้คุณได้สำรวจด้วยค่าธรรมเนียมต่ำ