คำเตือน: ข้อมูลนี้มาจากเว็บไซต์การเงินที่มีชื่อเสียงของกลุ่มธนาคารโลก J.P. Morgan Research และ HSBC ข้อมูลนี้สะท้อนถึงการวิจัยอย่างละเอียด และเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจสามารถเปลี่ยนแปลงสภาวะตลาดได้อย่างมาก และในทางกลับกัน การคาดการณ์ก็อาจเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้คุณทำการวิจัยและขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อตัดสินใจอย่างรอบรู้
ทองคำ ซึ่งมักเรียกกันว่า "สินทรัพย์ปลอดภัย" ถือเป็นรากฐานสำคัญของการเงินระดับโลกมาหลายศตวรรษ มูลค่าของทองคำได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ มากมาย เช่น ตัวบ่งชี้เศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และความรู้สึกของตลาด
ตั้งแต่อารยธรรมโบราณจนถึง นักลงทุน ในปัจจุบัน ทองคำเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่องเนื่องจากมีเสถียรภาพและป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แนวโน้มราคาทองคำที่ยังคงยาวนานนี้ส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยราคาทองคำมักจะสะท้อนให้เห็นแนวโน้มเศรษฐกิจในวงกว้าง การทำความเข้าใจพลวัตเหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในอนาคตและการตัดสินใจลงทุนอย่างรอบรู้
บทความนี้ให้การคาดการณ์ราคาทองคำอย่างครอบคลุมตั้งแต่ปี 2024 ถึงปี 2040 โดยวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญและการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญเพื่อแนะนำนักลงทุนผ่านภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาดทองคำ
ข้อสรุปที่สำคัญ: การคาดการณ์ราคาทองคำ
ตามคำกล่าวของนักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญ การคาดการณ์ราคาทองคำในปี 2024 คาดว่าจะเป็นไปในเชิงบวก โดยราคาอาจสูงถึง 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งขับเคลื่อนโดยนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ อัตราดอกเบี้ย และความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยทั่วโลก ผู้เชี่ยวชาญบางคนคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะซื้อขายในช่วง 2,800-3,200 ดอลลาร์ในปี 2025 ซึ่งสะท้อนถึงการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ
ในระยะยาว การคาดการณ์ราคาทองคำนั้นได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อ นโยบายของธนาคารกลาง และแนวโน้มเศรษฐกิจโลก นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจพุ่งสูงถึง 6,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในปี 2040 โดยประเมินอัตราผลตอบแทนที่ 7.2% ต่อปี ความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและศักยภาพของภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกยังเป็นปัจจัยผลักดันเบื้องหลังการคาดการณ์เชิงบวกเกี่ยวกับ ราคาทองคำ อีกด้วย
ราคาทองคำจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในปี 2024 หรือไม่
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2023 โดยนักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่าแนวโน้มขาขึ้นจะดำเนินต่อไปในปี 2024 ตามข้อมูลของ J.P. Morgan Research คาดว่าราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปี 2567 เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความกังวลเกี่ยวกับการขาดดุลทางการคลังของสหรัฐฯ การกระจายความเสี่ยง เงินสำรองของธนาคารกลางที่เป็นทองคำ การป้องกันความเสี่ยง อัตราเงินเฟ้อและภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ไม่เสถียร การคาดการณ์นี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์คนอื่นๆ โดยการคาดการณ์ราคาบางอย่างจะยิ่งสูงขึ้นไปอีก เช่น เป้าหมาย 3,000 ดอลลาร์ของอัยการสูงสุด Thorson
แนวโน้มของตลาดในปัจจุบันยังชี้ให้เห็นแนวโน้ม กระทิง สำหรับราคาทองคำในปี 2024 สภาทองคำโลกรายงานว่าธนาคารกลางซื้อทองคำ 1,037 ตันในปี 2023 โดยในปี 2024 เริ่มต้นอย่างแข็งแกร่งด้วยการซื้อสุทธิ 290 ตันในไตรมาสแรก ความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากธนาคารกลางเหล่านี้ บวกกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินอยู่ มีแนวโน้มที่จะผลักดันให้ราคาทองคำสูงขึ้นในปี 2567
อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตว่ายังมีความเสี่ยง ขาลง ต่อการคาดการณ์ราคาทองคำ เช่น สถานการณ์ที่เฟดแสดงท่าทีเข้มงวดมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะบรรลุเป้าหมายอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าปัจจัยขับเคลื่อนโครงสร้างที่ช่วยให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นจนถึงตอนนี้จะยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนขาขึ้นที่สำคัญต่อไป ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะแตะระดับสูงสุดตลอดกาลอีกครั้งในปี 2024
ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ไม่มีส่วนบวกเพิ่ม
Apple, Amazon, NVIDIA
31/10/2024 | 13:30 - 20:00 UTC
การคาดการณ์ราคาทองคำในเดือนกันยายน 2024
การคาดการณ์ราคาทองคำในเดือนกันยายน 2024 มีลักษณะผสมผสานระหว่างเสถียรภาพและความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น จากข้อมูลล่าสุด ทองคำได้ทำลายสถิติประวัติศาสตร์ไปแล้ว โดยแตะระดับปัจจุบันที่ 2,386.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การพุ่งขึ้นนี้ส่วนใหญ่เกิดจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ อัตราเงินเฟ้อโลกที่สูง และความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่ยังคงดำเนินอยู่
ในเดือนกันยายน 2024 คาดว่าราคาทองคำจะผันผวนในช่วง 2,212 ถึง 2,444 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2,331 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การคาดการณ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินอยู่และการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งอาจช่วยหนุนราคาทองคำได้อีก
ระดับแนวรับสำคัญสำหรับทองคำในเดือนกันยายน 2024 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2,060 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีความเป็นไปได้ที่ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงมาที่ระดับนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากภูมิทัศน์ทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบันและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจแล้ว ทองคำน่าจะยังคงเป็นที่ต้องการสูง ซึ่งจะหนุนราคาทองคำ
การคาดการณ์ราคาทองคำเดือนตุลาคม 2024
คาดว่าราคาทองคำในเดือนตุลาคม 2024 จะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยสำคัญหลายประการ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงดำเนินอยู่ โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง มีแนวโน้มที่จะทำให้ราคาทองคำสูงขึ้น นอกจากนี้ การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี 2024 อาจผลักดันให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้นอีก โดยปัจจุบันราคาทองคำอยู่ที่ 2,431.85 ดอลลาร์แล้ว เป้าหมายต่อไปที่ต้องจับตาคือ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวโน้มขาขึ้นของกราฟทองคำและตัวบ่งชี้สำคัญบ่งชี้ว่าทองคำอาจเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 2,550 ดอลลาร์ในปี 2024 การคาดการณ์นี้ได้รับการสนับสนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาทองคำเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งแซงหน้าการคาดการณ์หลายๆ ครั้งสำหรับปีนี้ไปแล้ว ความกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์และความเป็นไปได้ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทำให้การพุ่งขึ้นของราคาทองคำอีกครั้งดูเป็นไปได้
ในบริบทของแนวโน้มเศรษฐกิจที่กว้างขึ้น การคาดการณ์ราคาทองคำในเดือนตุลาคม 2024 ยังได้รับอิทธิพลจากความแข็งแกร่งของดอลลาร์และภูมิทัศน์เศรษฐกิจโดยรวมอีกด้วย เมื่ออัตราดอกเบี้ยเริ่มลดลง ราคาทองคำอาจแตะระดับสูงสุดใหม่ เป้าหมายราคาเฉลี่ยของทองคำในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 อยู่ที่ประมาณ 2,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามข้อมูลของ JPMorgan Chase & Co. ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2024
การคาดการณ์ราคาทองคำในเดือนพฤศจิกายน 2024
ราคาทองคำในเดือนพฤศจิกายน 2024 จะได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย การเคลื่อนไหวนี้คาดว่าจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ทำให้ทองคำน่าดึงดูดใจนักลงทุนมากขึ้น นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ยังคงดำเนินอยู่ จะยังคงผลักดันความต้องการทองคำในสินทรัพย์ปลอดภัยต่อไป ธนาคารกลางซึ่งเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่มีแนวโน้มที่จะรักษาอัตราการซื้อเอาไว้ ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำสูงขึ้นต่อไป
ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,431.85 ดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการปรับขึ้นราคาต่อไป นักวิเคราะห์จาก J.P. Morgan และสถาบันการเงินอื่นๆ คาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจแตะระดับ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปี 2024 โดยได้รับแรงผลักดันจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่เป็นขาขึ้น เช่น การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและการกระจายความเสี่ยงของเงินสำรองของธนาคารกลางไปยังทองคำ การกำหนดค่าของตัวชี้วัดหลักของทองคำที่เป็นขาขึ้น เช่น ยูโร (USD) อัตราผลตอบแทนพันธบัตร และเงินเฟ้อ ยังสนับสนุนศักยภาพของทองคำที่จะแตะระดับสูงสุดใหม่ในเดือนพฤศจิกายน 2024 อีกด้วย
ศักยภาพของภาวะเศรษฐกิจถดถอยเล็กน้อยและวิกฤตค่าครองชีพที่ยังคงดำเนินอยู่จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเช่นกัน นักลงทุนที่มองหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมีแนวโน้มที่จะหันมาซื้อทองคำ ซึ่งจะทำให้ราคาสูงขึ้น ราคาเป้าหมายเฉลี่ยของทองคำในเดือนพฤศจิกายน 2024 ตามที่นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ไว้ อยู่ในช่วง 2,000 ถึง 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบางรายคาดการณ์ไว้สูงถึง 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ช่วงราคาที่กว้างนี้เน้นย้ำถึงความไม่แน่นอนและความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในตลาดทองคำ ทำให้นักลงทุนจำเป็นต้องคอยติดตามข้อมูลและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม
เหตุใดจึงพลาดศักยภาพของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์?
ค้นพบโอกาสที่ยังไม่ได้ใช้ใน CFD สินค้าโภคภัณฑ์ชั้นนำ เช่น ทองคำ เงิน และน้ำมัน
การคาดการณ์ราคาทองคำในเดือนธันวาคม 2024
คาดว่าราคาทองคำจะกลับมามีแนวโน้มสูงขึ้นในเดือนธันวาคม 2567 เนื่องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง นักวิเคราะห์จาก WalletInvestor คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะสูงถึง 2,150.53 ดอลลาร์ภายในเดือนธันวาคม 2567 ซึ่งสะท้อนถึงสถานะของโลหะในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่ความไม่มั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ผันผวน การคาดการณ์นี้สอดคล้องกับความเห็นพ้องต้องกันว่าทองคำจะรักษามูลค่าไว้ในฐานะ เครื่องมือ เพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อและความผันผวนของตลาด
กลุ่มธนาคารโลกยังสนับสนุนมุมมองเชิงบวกต่อทองคำ โดยคาดการณ์ราคาเฉลี่ยที่ 2,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2024 การคาดการณ์นี้ขึ้นอยู่กับสมมติฐานที่ว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางอาจนำไปสู่ความไม่แน่นอนของโลกที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ราคาเฉลี่ยที่ 1,775 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับอิทธิพลจากการคาดการณ์เงินเฟ้อและสถานะของ ตลาดการเงิน
แนวโน้มขาขึ้นของราคาทองคำได้รับการเสริมกำลังเพิ่มเติมโดย J.P. Morgan Research ซึ่งคาดว่า
การคาดการณ์ราคาทองคำในระยะยาว (2025-2040)
แนวโน้มปี 2025:
แนวโน้มในปี 2025 ยังไม่แน่นอน ผู้เชี่ยวชาญบางคนคาดว่าราคาทองคำจะทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 2,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงต้นปี 2025 และอาจลดลงเหลือ 2,175 ดอลลาร์ในช่วงปลายปี ขึ้นอยู่กับอัตราการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ HSBC คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะลดลง 12% ในปี 2025 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงเพิ่มขึ้น ในขณะที่นักวิเคราะห์รายอื่นยังคงมีมุมมองเชิงบวก โดยแนะนำว่าราคาอาจสูงเกิน 3,000 ดอลลาร์
แนวโน้มปี 2030:
ภายในปี 2030 การคาดการณ์บางส่วนระบุว่าทองคำอาจสูงถึง 7,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเกิดจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่ต่ำ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ที่กระตุ้นความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ความต้องการของธนาคารกลางน่าจะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว
แนวโน้มปี 2040:
หากมองไปข้างหน้า ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจพุ่งสูงถึง 5,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในปี 2040 โดยได้รับการสนับสนุนจากความท้าทายทางเศรษฐกิจระดับโลก ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ การคาดการณ์บางส่วนค่อนข้างอนุรักษ์นิยม โดยคาดการณ์ว่าราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์
วิธีวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาทองคำ
ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจ:
ตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น อัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย และการเติบโตของ GDP มีผลโดยตรงต่อราคาทองคำ ในช่วงที่เงินเฟ้อสูง ทองคำมักจะพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนต้องการปกป้องอำนาจซื้อของตน ในทางกลับกัน อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจทำให้ทองคำไม่น่าดึงดูดใจในฐานะการลงทุน ส่งผลให้ราคาลดลง
เหตุการณ์ภูมิรัฐศาสตร์:
ความไม่มั่นคงทางการเมือง ความขัดแย้งทางการค้า และความตึงเครียดระดับโลกอาจส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากนักลงทุนแห่กันเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ตัวอย่างเช่น ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน และความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ความรู้สึกของตลาด:
ความรู้สึกของตลาด ซึ่งขับเคลื่อนโดยความคาดหวังของนักลงทุนและปฏิกิริยาต่อข้อมูลเศรษฐกิจและการพัฒนาภูมิรัฐศาสตร์ มีบทบาทสำคัญในการกำหนดราคาทองคำ การใช้เครื่องมือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น ระดับ แนวรับและแนวต้าน สามารถช่วยคาดการณ์แนวโน้มราคาในอนาคตโดยอ้างอิงจากประสิทธิภาพในอดีตได้
บทสรุป
การคาดการณ์ราคาทองคำตั้งแต่ปี 2024 ถึงปี 2040 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขับเคลื่อนโดยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทั่วโลกและความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ในขณะที่ธนาคารกลางยังคงกระจายการสำรองเงินและอัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นปัญหา ศักยภาพการเติบโตในระยะยาวของทองคำดูแข็งแกร่ง ทำให้เป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจในปีต่อๆ ไป